แหล่งข้อมูลของการเข้าชมฟรีที่ดีที่สุดสำหรับการตลาดแบบพันธมิตรในปี 2566

Published : 27 Jun 2023   author : Irina

ความหมายของการตลาดแบบพันธมิตรนั้นอยู่ที่การสร้างการเข้าชม (traffic generating) และนี่คือสิ่งที่ผู้คนทั่วไปพูดถึง ซึ่งเรารู้ดีว่าบางครั้งการได้รับการเข้าชมที่ล้ำค่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

และนั่นเป็นเหตุผลที่เราได้เตรียมแหล่งข้อมูลของการเข้าชมฟรีที่ดีที่สุดมาไว้ที่นี่ ซึ่งคุณสามารถทดลองใช้ได้แล้วตอนนี้

1. SEO

SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นแหล่งข้อมูลของการเข้าชมฟรีที่ยอดเยี่ยม เพราะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับที่สูงขึ้นได้ในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERP) สำหรับคีย์เวิร์ดและวลีที่เกี่ยวข้อง เมื่อเว็บไซต์ของคุณปรากฏใน SERPs โดยที่มีอันดับสูงขึ้น นั่นหมายความว่า ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับการคลิกและได้รับการเยี่ยมชมจากผู้ใช้ที่ค้นหาข้อมูลหรือคำตอบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมของคุณ

Google ประมวลผลการค้นหามากกว่า 99,000 ครั้งในทุก ๆ วินาที (ที่มา: Internet Live Stats, 2565) ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดย 51% ของผู้ซื้อทั่วโลกกล่าวว่าพวกเขาใช้การค้นหาเพื่อค้นหาข้อมูลการซื้อที่พวกเขาวางแผนจะซื้อทางออนไลน์ (ที่มา: Think with Google) และที่น่าประทับใจยิ่งกว่านั้นก็คือเนื้อหาที่ได้รับการปรับแต่งอย่างถูกต้องสามารถสร้างการเข้าชมได้เป็นเวลาหลายปีหลังจากที่เผยแพร่ ซึ่งสะท้อนถึงความฝันของนักการตลาดแบบพันธมิตรอย่างแท้จริง เพราะนั่นก็คือรายได้แบบพาสซีฟ

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้เพียง 25% เท่านั้นทีคลิกเลื่อนผ่านหน้าแรกของ Google ไป ซึ่งหมายความว่าคุณต้องเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาของคุณ นอกจากนี้ การปรากฏในหน้าแรกจะไม่เกิดขึ้นในทันที แต่มันต้องใช้เวลา และนี่คือสิ่งที่คุณควรทำ: ใช้เครื่องมือคีย์เวิร์ด (แบบฟรีหรือแบบเสียเงิน) วิเคราะห์คีย์เวิร์ดและการค้นหา และสร้างเนื้อหาที่ผู้คนกำลังมองหาอยู่ในปัจจุบัน

2. เว็บไซต์/บล็อกของคุณเอง

ด้วยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีอยู่มากมาย คุณอาจคิดว่าการจัดการเว็บไซต์เป็นเรื่องที่เสียเวลา ซึ่งความคิดนั้นไม่เป็นความจริงเลย SEO ที่เราได้กล่าวมาข้างต้นมีผลอย่างมากกับแพลตฟอร์มทุกประเภทที่คุณใช้โพสต์ข้อความ ซึ่งการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณเองอาจนำไปสู่การเพิ่มปริมาณการเข้าชมและการเติบโตของรายได้

ใช้ประโยชน์จาก SEO โพสต์เนื้อหาที่ไม่ซ้ำใครและมีประโยชน์ และคุณสามารถเปลี่ยนเว็บไซต์ของคุณให้เป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของการเข้าชมหลักของคุณได้ การสร้างเว็บไซต์ที่มี conversion สูงนั้นดูน่ากลัวสำหรับผู้เริ่มต้นหลายคน แต่จริง ๆ แล้วการทำตามกฎพื้นฐานสามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่อแก่คุณได้ อย่าลืมเลือกผู้ให้บริการโฮสติ้งที่เหมาะสม เพราะไม่ว่ามันจะดูสมบูรณ์แบบแค่ไหน แต่หากเว็บไซต์ของคุณทำงานช้า ผู้ใช้ของคุณก็จะโบกมือลาก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสได้เห็นเว็บไซต์จริง

3. การตลาดทางอีเมล

การตลาดทางอีเมล์ไม่เคยหมดยุคแม้แต่ครั้งเดียวในตลอดหลายปีที่ผ่านมา การเพิ่มรายชื่ออีเมลเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดแบบดึงดูด (การตลาดที่เน้นการดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาหาธุรกิจผ่านการสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์) ของคุณ ในปี 2563 รายได้จากการตลาดผ่านอีเมลมีมูลค่าสูงถึง 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และภายในปี 2566 ตัวเลขนี้จะทะลุเกณฑ์ 10 พันล้านดอลลาร์อีกด้วย

ทำการรวบรวมอีเมลของผู้ชมของคุณโดยใช้แพลตฟอร์มอื่นถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้ในทันทีก็ตาม มีวิธีมากมายในการสร้างรายได้จากรายชื่ออีเมล และคุณจะรู้สึกขอบคุณสำหรับการตัดสินใจของคุณเองในอนาคตอันใกล้นี้

4. เฟสบุ๊ค (Facebook)

จากข้อมูลของ SproutSocial มีผู้ใช้ 1.62 พันล้านคนเข้าชมเฟสบุ๊คโดยเฉลี่ยในทุกวัน ลองสร้างเพจธุรกิจบนเฟสบุ๊คหรือกลุ่มและเพิ่มจำนวนผู้ชมของคุณ สร้างชื่อแบรนด์บนเฟสบุ๊คจากนั้นแบรนด์ของคุณจะทำงานเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบพันธมิตรของคุณเอง

อาจจะต้องใช้เวลา เนื่องจากคุณควรให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในโพสต์ของคุณ และในเรื่องนี้ กฎ 80/20 มีประโยชน์มาก ซึ่ง 80% ของโพสต์ของคุณควรมีข้อมูลที่มีค่าหรือให้ความบันเทิงหรือที่สามารถแชร์ต่อได้ และอีก 20% ที่เหลือของโพสต์สามารถมีลิงค์พันธมิตรได้

5. อินสตาแกรม (Instagram)

อินสตาแกรมเป็นแพลตฟอร์มสื่อภาพที่ทรงพลังซึ่งสามารถนำเสนอผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่มากกว่า 2.35 พันล้านรายต่อเดือน คุณได้ยินถูกต้องแล้ว ตัวเลขนี่คือจำนวนผู้คนที่ใช้แอปนี้เป็นประจำทุกเดือน (ที่มา: Demandsage)

สิ่งที่ยั่วเย้าที่สุดคืออัลกอริทึมของอินสตาแกรมนั้นแม่นยำอย่างน่าอัศจรรย์ และจะแสดงเนื้อหาที่พวกเขาสนใจให้ผู้ใช้ได้เห็น อย่างไรก็ตามข้อเสียของมันคือมีความแออัดเกินไปและมีการแข่งขันสูง ดังนั้นคุณต้องโดดเด่น แต่ในขณะนียังไม่มีช่องว่างสำหรับเพิ่มลิงค์พันธมิตรไว้ในโพสต์ ยกเว้นลิงค์เดียวที่คุณสามารถเพิ่มในประวัติได้ ดังนั้นรหัสโปรโมทจึงถูกนำมาใช้แทน นอกจากนี้อินสตาแกรมยังเป็นเครื่องมือสร้างการเข้าชมที่สมบูรณ์แบบสำหรับเว็บไซต์ของคุณหรือลิ้งใน Linktree ที่จะลิ้งไปที่หน้าหลักของโซเชียลมีเดีย

6. พินเทอเรสต์ (Pinterest)

พินเทอเรสต์ทำงานเหมือนเครื่องมือค้นหาสำหรับเนื้อหาภาพ แพลตฟอร์มนี้มีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ประมาณ 450 ล้านคนต่อเดือนทั่วโลก (ที่มา: Statista) ซึ่งทำให้เป็นแหล่งการเข้าชมที่ยอดเยี่ยมอีกแหล่งหนึ่ง

“กำลังซื้อ” ของแพลตฟอร์มเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่ความสนใจของคุณ ซึ่ง 31% ของกลุ่มคนที่เกิดช่วงปี พ.ศ. 2527 – 2539 ในสหราชอาณาจักรที่มีรายได้ครัวเรือนมากกว่า 100,000 ปอนด์ มีความสนใจบนพินเทอเรสต์

อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าผู้ชมมาที่พินเทอเรสต์เพื่อหาแรงบันดาลใจไม่ใช่เพื่อการซื้อโดยตรง สิ่งที่คุณต้องทำคือ ใช้พินเทอเรสต์เป็นกับดักความสนใจ – สร้างพินที่สอดคล้องกับช่องของคุณ และเพิ่มความสนใจหรือเสนอวิธีแก้ปัญหาสำหรับประเด็นปัญหาของผู้ชมหรือเพียงแค่สร้างแรงบันดาลใจ โปรดจำไว้ว่า เป้าหมายของคุณไม่ใช่เพียงเพื่อให้มีผู้ปักหมุดมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนเส้นทางพวกเขาให้ไปยังเว็บไซต์ของคุณด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่คุณควรสร้างแรงจูงใจให้กับพินของคุณ – แสดงให้ผู้ใช้เห็นว่ามีเนื้อหาที่มีคุณค่ามากมายบนเว็บไซต์หรือบล็อกของคุณ

7. ยูทูป (Youtube)

ยูทูปมีผู้ใช้งานรายเดือนประมาณ 2.6 พันล้านคนในกว่า 100 ประเทศ (ที่มา: Wyzowl) โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นเสิร์ชเอ็นจิ้นที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 และคุณไม่จำเป็นต้องมีไลฟ์สไตล์ที่หรูหราเพื่อสร้างรายได้จากยูทูป ในทางตรงกันข้าม วิดีโอที่ตรงไปตรงมาและมีประโยชน์จะทำให้คุณมียอดดูและผู้ติดตามที่มากขึ้น แทนที่จะเป็นแค่การสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา ผู้ใช้ยูทูปสร้างรายได้ด้วยลิงก์พันธมิตรในคำอธิบายวิดีโอเหมือนบนเว็บไซต์ทั่วไป หรือเพียงแค่ระบุรหัสโปรโมชั่นส่วนตัว ซึ่งค่อนข้างคล้ายกับอินสตาแกรม ซึ่งวิดีโอรีวิวสินค้า วิดีโอสอนการใช้งาน และวิดีโอช่วยสรุป เป็นประเภทวิดีโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและเป็นวิดีโอที่ “สร้างรายได้” มากที่สุด

8. ติ๊กต๊อก (TikTok)

ติ๊กต๊อกเริ่มต้นจากการเป็นแอปสนุก ๆ สำหรับวัยรุ่น และในปีนี้จำนวนผู้ใช้ต่อเดือนมีแนวโน้มที่จะสูงถึง 834.3 ล้านคน (ที่มา: Insider Intelligence) ทำให้เป็นเครือข่ายโซเชียลที่ใหญ่เป็นอันดับสาม และไม่ใช่แค่สำหรับวัยรุ่นอีกต่อไป! แต่ตอนนี้กลายมาเป็นแอปสำหรับทุกเพศทุกวัย ซึ่งหมายความว่านั้นคือโอกาสที่ไม่มีที่สิ้นสุด

อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าผลิตภัณฑ์และบริการบางประเภทได้รับการโปรโมทที่นี่ซึ่งอาจจะดีกว่าที่อื่น สินค้าเกี่ยวกับแฟชั่นกำลังได้รับความนิยมอย่างลุกเป็นไฟ หลักสูตรการเรียนต่าง ๆ ก็สามารถขายได้ค่อนข้างดีเช่นกัน เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าติ๊กต๊อกถูกใช้สำหรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เช่น ภาษาต่างประเทศ ซอฟต์แวร์ ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน – แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้คุณประสบความสำเร็จในทันทีก็ตาม 

ติ๊กต๊อกไม่มีพื้นที่สำหรับเพิ่มลิงก์พันธมิตรในคำอธิบายวิดีโอ แต่คุณสามารถเพิ่มลิงก์ในประวัติและกระตุ้นให้ผู้ชมคลิกได้

9. ลิงค์อิน (Linkedin)

พูดง่าย ๆ ว่าลิงค์อินก็คืออินสตาแกรม แต่ใช้สำหรับความสำเร็จในหน้าที่การงานและการสร้างเครือข่าย ตามข้อมูลของลิงค์อินในปี 2564 มีผู้ใช้ 180 ล้านคน (เกือบ 25% ของฐานผู้ใช้ทั้งหมด) เป็นผู้มีอิทธิพลระดับอาวุโส จากข้อมูลของ Kinsta ในปี 2565 ผู้ใช้ลิงค์อิน 44% มีเงินเดือนต่อปีอยู่ที่ 75,000 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าค่ามัธยฐานในสหรัฐอเมริกา

เมื่อพิจารณาถึงการให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อแบบมืออาชีพแล้ว ลิงค์อินไม่ใช่แพลตฟอร์มสำหรับบริการหรือผลิตภัณฑ์แบบพันธมิตรเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม คุณสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยหลักสูตรพันธมิตรหรือผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์บางประเภทที่สามารถเพิ่มพูนทักษะของผู้คนหรือช่วยในการทำงาน เช่น ซอฟต์แวร์ช่วยออกแบบ เป็นต้น

ในแง่ของการตลาด ลิงค์อินทำงานเหมือนกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ คุณควรกำหนดสิทธิ์ของคุณ ขยายกลยุทธ์การโพสต์ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ลิงค์พันธมิตรอย่างรอบคอบ – อย่าใช้แบบหักโหมมากจนเกินไป

จากที่กล่าวมานั้น ลิงค์อินสามารถเป็นส่วนที่สมบูรณ์แบบของกลยุทธ์การตลาดแบบดึงดูดของคุณได้อีกทางหนึ่ง

10. เว็บไซต์ถามตอบและฟอรัม

Quora เป็นแหล่งข้อมูลประเภทถามตอบที่ได้รับความนิยมสูงสุด ที่นี่ทุกคนสามารถถามคำถามได้ในเกือบทุกหัวข้อและสามารถได้รับคำตอบจากใครก็ได้ คุณสามารถสร้างพื้นที่ของคุณได้ที่นี่โดยให้คำตอบและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มีผู้คนหลายพันคนเริ่มต้นจาก Quora แล้วเปลี่ยนผู้ติดตามให้เป็นลูกค้าหรือผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มอื่น

โปรดทราบว่าการแข่งขันนั้นค่อนข้างสูง และเราไม่นิยมการโปรโมทที่เกินจริงหรือการตลาดที่โจ่งแจ้งทุกประเภท คุณจะต้องทำตัวให้มีประโยชน์ก่อนโดยเน้นการให้คำตอบที่ผู้คนกำลังมองหา

นอกจากนี้ ความจริงที่ว่าคุณสามารถเพิ่มลิงก์ไม่ได้หมายความว่าคุณควรทำตั้งแต่เริ่มต้น ควรใช้เวลาเพื่อสร้างสถานะออนไลน์ของคุณในฐานะผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นใช้ประโยชน์จากโอกาสทั้งหมดที่คุณจะได้รับ 

ใช้กฎเดียวกันนี้กับฟอรัม – ทำตัวให้มีประโยชน์! เป็นวิธีเดียวที่จะเพิ่มจำนวนผู้ชมของคุณในทุกวันนี้ เพราะการโปรโมทที่มากเกินไปจะทำให้คุณถูกแบนหรือถูกมองข้ามได้

11. ทวิตเตอร์ (Twitter)

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เป็นผู้กระตุ้นทวิตเตอร์เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ทำให้เกิดความสับสนเล็กน้อยในจำนวนผู้ชมที่แท้จริง จากข้อมูลของ Business of Apps Twitter มีผู้ใช้งาน 368 ล้านคนต่อเดือนในปี 2565 ซึ่งถือว่าค่อนข้างน่าประทับใจเลยที่เดียวใช่ไหมล่ะ

ทวิตเตอร์เป็นแพลตฟอร์มการแบ่งปันต่าง ๆ ดังนั้นคุณจะต้องสร้างทวีตที่จะกระจายคำโดยการแพร่กระจายจริง ๆ หรือที่เรียกว่าการรีทวีตและไลค์ ราชาแห่งกลยุทธ์ของคุณควรเป็นจุดตัดระหว่างประโยชน์และแรงกระตุ้นในขณะนั้น เพราะทวิตเตอร์นั้นเกี่ยวกับการจุดประกายความสนใจในช่วงเวลานั้น ๆ ทวีตส่วนบุคคลจำกัดไว้ที่ 280 อักขระ แต่ threads (ชุดของทวีตที่เชื่อมต่อกัน) ให้พื้นที่มากขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์การตลาดแบบพันธมิตรของคุณ

บทสรุป

เราได้รวบรวมแหล่งที่มาของการเข้าชมฟรีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดบางส่วน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าแม้ว่าแหล่งที่มาของการเข้าชมเหล่านี้จะให้บริการฟรี แต่ก็ต้องใช้เวลาและความพยายามในการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและมีส่วนร่วมกับผู้ชมของคุณเพื่อสร้างความไว้วางใจและสร้างตัวเองให้เป็นผู้มีอำนาจในช่องของคุณ ทุกวันนี้ การโปรโมทที่เกินจริงโดยไม่ให้เนื้อหาที่มีคุณค่าเป็นเส้นทางที่ไร้จุดหมาย เนื้อหาและสิ่งที่มีประโยชน์เป็นจุดแข็งหลักโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของแหล่งที่มาของการเข้าชมฟรี นั่นเป็นเหตุผลที่คุณต้องใช้เวลา เริ่มสร้างโปรไฟล์ที่คุณชำนาญและมีประสบการณ์เพื่อใช้ประโยชน์จากความสนใจของผู้ชมของคุณในเรื่องเหล่านั้น 

คอยติดตามโพสต์ต่อไปเกี่ยวกับแหล่งที่มาของการเข้าชมที่ให้ค่าตอบแทนดีที่สุดเพื่อจุดประสงค์ทางการตลาดแบบพันธมิตร!

พวกเราที่ Indoleads มีโปรแกรมพันธมิตรที่ดีที่สุดสำหรับแหล่งที่มาของการเข้าชมและผู้ชมทั้งหมด เข้าร่วมกับเราเพื่อเข้าถึงข้อเสนอพันธมิตรกว่า 2,000 รายการในทุกช่องทางที่ทำกำไรได้!